ปลุกระดมไทยฆ่าไทยอ้ายบังจะครองเมือง!

ปลุกระดมไทยฆ่าไทย อ้ายบังจะครองเมือง.!           ไม่แปลกเลยครับที่อ้ายบัง จะออกมาข่มขู่ คุกคามประชาชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตย ในนามของแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ หรือ นปก. ว่า มีประชาชนจำนวนมาก ที่เป็นพลังเงียบไม่เห็นด้วยกับการเรียกร้องประชาธิปไตย ของนปก.           อ้ายบังบอกว่า ประชาชนจำนวนมากที่ว่านี้ อยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลนี่ล่ะ มีปฏิกิริยากันอย่างมาก และเอ่ยปากออกมาแล้วว่า พร้อมที่จะมาปะทะ หรือ มาชนกับ นปก. เพื่อให้ฉิบหายกันไปข้างหนึ่ง ดีแต่ว่า “ผมห้ามไว้”           “แต่ก็ไม่แน่นะ ถ้า ม็อบสนามหลวง ยังไม่หยุด ยังไม่ยอมเลิก กลุ่มพลังเงียบที่ไม่พอใจ ก็อาจจะออกมาเผชิญหน้า ซึ่งถึงเวลานั้น ก็เป็นสิทธิของประชาชน ที่จะแสดงออก ผมไปห้ามไม่ได้” อ้ายบัง ในฐานะแม่ข่ายส่งสัญญาณออกมาอย่างชัดเจนขนาดนี้  ลูกข่ายคนไหนรับไม่ชัด ก็ประหลาดเต็มที           ไม่แปลกหรอกครับ ที่อ้ายบัง จะรู้ว่ามีประชาชนที่เป็นกลุ่มพลังเงียบจำนวนมากไม่พอใจ นปก. เอาเข้าจริงๆ แล้ว อ้ายบัง รู้ด้วยซ้ำว่าพลังเงียบที่ว่ามานั้น ชื่ออะไร นามสกุล อยู่บ้านเลขที่เท่าไร  ผู้หญิงกี่คน ผู้ชายกี่คน อายุกี่ปี  มีลูกมีเมียกี่คน  ทำมาหากินอะไร มีรายได้วันละกี่บาท  ใช้อาวุธเป็นหรือไม่  เหตุที่อ้ายบัง รู้ข้อมูลกลุ่มพลังเงียบ ละเอียดยิบขนาดนี้ ก็เพราะ กลุ่มพลังเงียบที่อยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล นี้ เป็นกลุ่มพลังเงียบที่ อ้ายบัง สั่งการให้ พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 ไปจัดตั้งไว้รอท่า เป็นมวลชนของกองทัพ ที่พร้อมจะยกพลมาบดขยี้ มาปะทะกับประชาชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการคมช.  ตั้งแต่หลังการรัฐประหาร จำได้ไหม ที่ Hi-thaksin เคยนำแผนลับกองทัพภาคที่ 1 มานำเสนอ เรื่องที่พล.ท.ประยุทธ์ ใช้เงิน 319 ล้านบาทไปจัดตั้งมวลชน ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทั้งฝึกซ้อม อบรม ปลุกระดม ล้างสมอง ให้ยอมรับระบอบประชาธิปไตยที่มีทหารเป็นใหญ่ในแผ่นดิน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ อ้ายบัง จะรู้ได้ว่ามีพลังเงียบ ที่แอบซ่อนตัว ไว้ให้รอใช้เป็นกองกำลังประชาชน กี่คน กี่นาย และ เป่านกหวีดให้ออกมาปฏิบัติการ หรือ หยุดปฏิบัติการเมื่อไรก็ได้ ตามที่ต้องการ กลุ่มพลังเงียบ นี้ เคยสำแดงพลังมาครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อครั้งที่จัดการชุมนุมลานพระราชวังดุสิต  มี พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน เป็นผู้นำการชุมนุม มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วม และ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำพันธมิตรฯสนธิ ลิ้มทองกุล  นำกลุ่มพันธมิตรฯ เข้ามาเสริม การจัดแสดงพลังในครั้งนั้น ผู้รับหน้าที่จัดการม็อบ ก็คือ พ.ท.หิมาลัย ผิวพรรณ หรือ เสธ.หิ มาเฟียทหาร ที่ถูกมาตรการปราบมาเฟียของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กำราบจนหายซ่าส์ แต่ก็ออกมามีอิทธิพลอีกครั้งในขณะนี้  เมื่อทหารเป็นใหญ่ในแผ่นดิน หน้าที่ของกลุ่มพลังเงียบ ที่อ้ายบัง ส้องสุมอุ้มชูเลี้ยงดูมาเกือบปีนี้ ก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากเป็นผู้เปิดเกมมวลชนปะทะมวลชน เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ด้วยการยั่วยุให้ฝ่ายตรงข้ามหมดความอดทนและลงไม้ลงมือ หรือถ้าฝ่ายตรงข้ามไม่หลงกลเข้าตามแผนที่วางไว้ ก็จะเป็นฝ่ายลงมือเอง  คือ ทำอย่างไรก็ได้ ให้เกิดการปะทะกันให้ได้  เพื่อที่จะนำไปสู่เงื่อนไขการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และเข้าควบคุมสถานการณ์ของ ทหาร เมื่อถึงตอนนั้น อ้ายบัง ก็จะอ้างเหตุสารพัดของความแตกแยกในประเทศชาติ และความขัดแย้งทางความคิดอย่างรุนแรงของประชาชนคนไทยด้วยกันเอง ยึดอำนาจซ้ำ เป็นคำรบที่สองในรอบ 1 ปี ยืดอายุการถือครองอำนาจของตนเอง ให้ยาวนานออกไปตามที่ต้องการ หรือจนกว่าประชาชนในชาติ จะมีความสามัคคีกัน แผนการนี้ รูปเกมแบบนี้ อ้ายบัง เคยทำมาแล้ว เคยใช้มาแล้วในการยึดอำนาจ 19 กันยายน 2549  ด้วยการยกข้ออ้างว่า มวลชนสองฝั่งจะปะทะกัน  หากปล่อยไว้จะทำให้คนไทยต้องเสียเลือดเนื้อ และเกิดความบาดหมางในชาติ จึงทำการยึดอำนาจ ไว้แต่เพียงผู้เดียว ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง ไม่มีใครปะทะกับใครทั้งสิ้น แต่อ้ายบัง ก็ตวัดลิ้น อ้างสถานการณ์ในอนาคต ยึดก่อการรัฐประหาร ยึดอำนาจ เหตุที่อ้ายบัง ยึดอำนาจปกครองแผ่นดิน ไว้ในมือเพียงผู้เดียว ไม่ใช่เพราะมวลชนสองฝ่ายจะปะทะกัน แต่เป็นเพราะกลัวจะถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก เนื่องจาก ไม่สามารถแก้สถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ ต่างหาก จึงอย่าชะล่าใจว่า แผนการที่เคยใช้ไปแล้ว จะไม่ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง ขณะนี้ อ้ายบัง เริ่มนับถอยหลังตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก อีกแล้ว แน่นอนว่า อ้ายบัง กำลังคิดหาทางอยู่ในอำนาจต่อเนื่อง เพื่อป้องกันตัวเอง ทั้งจากคู่อรินอกกองทัพ และ ศัตรูในกองทัพ ที่ถูกรังแกกลั่นแกล้ง โยกย้ายแต่งตั้งไปลงตำแหน่งต่างๆ ที่ด้อยศักดิ์ศรีลง เป็นจำนวนมาก หลัง 19 กันยายน 2549  อีกทั้งยังมีพลังประชาชนผู้รักประชาธิปไตย ทั้งประเทศ ที่เตรียมรอคิดบัญชีย้อนหลังกับอ้ายบัง ในฐานะศัตรูของระบอบประชาธิปไตย เมื่อพลังเงียบ ที่ตระเตรียมไว้ มีความพร้อม มีความกระเหี้ยนกระหือรือที่จะปะทะ หรือ ชน หลังจากถูกปลุกระดม ถูกล้างสมอง จนมองเห็น ประชาชนคนไทยด้วยกัน เป็นศัตรู ไปแล้ว   ก็ถึงเวลาที่อ้ายบัง จะเป่านกหวีด ให้มวลชนที่เลี้ยงดูไว้ ออกมาสร้างสถานการณ์ ก่อให้เกิดเหตุร้ายขึ้นในประเทศ นี่คือ แผน ปลุกระดมให้ไทยฆ่าไทย เพื่อที่ อ้ายบัง จะได้ใช้เป็นเงื่อนไขยึดอำนาจซ้ำ แล้วก้าวขึ้นสู่อำนาจครอบครองประเทศไทย อย่างเบ็ดเสร็จ ตามที่ต้องการ  และรอคอยมานาน เพราะฉนั้น แนวร่วมนปก. ตลอดจนประชาชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตย จะต้องระมัดระวังตัว ต้องควบคุมตัวเอง และแนะนำประชาชนแนวร่วม อย่าหลงกลเข้าไปสู่แผนการไทยฆ่าไทย ที่อ้ายบัง วางไว้ อย่างเด็ดขาด ความอำมหิต ของอ้ายบัง ที่จะทำให้คนไทยฆ่ากันเองนี้ เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อครั้งเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งทหารและตำรวจ ทำการปลุกระดมมวลชนกลุ่มหนึ่งขึ้นมา ในนามของลูกเสือชาวบ้าน แล้วสร้างเหตุการณ์ ปั่นเงื่อนไขให้ไทยฆ่าไทย คือ การเข่นฆ่านักศึกษาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากนั้น พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ ก็ทำการรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาลในขณะนั้น ทันที แผนการสร้างเหตุไทยฆ่าไทย เป็นเงื่อนไขให้ทหารรัฐประหาร ยึดอำนาจ ที่ พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ เคยทำสำเร็จมาแล้วนั้น กำลังจะได้รับการสานต่อจาก พล.อ.วินัย ภัทยิกุล เลขาธิการคมช. ปลัดกระทรวงกลาโหม หนึ่งในสมาชิกคมช. เพื่อนรักของอ้ายบัง ที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุด ให้เป็นผู้วางแผนการต่างๆ มาตั้งแต่การยึดอำนาจ 19 กันยายน 2549 พล.อ.วินัย ภัทยิกุล ที่กำลังจะใช้แผนไทยฆ่าไทย ครั้งที่สอง ก็คือ ลูกเขย ของ พล.ร.อ.สงัด ชอลอยู่  ผู้ใช้แผนการไทยฆ่าไทย ครั้งที่หนึ่งนั่นเอง  แผนการนี้ของอ้ายบัง จะสำเร็จหรือไม่ ก็อยู่คนไทยด้วยกัน ว่าจะเห็นแก่ความสงบสุขของประเทศไทย หรือ อยากจะเห็นเลือดไทยต้องไหลรินเพราะไทยฆ่าไทยด้วยกันเอง  อามิสสิน จ้างที่รับมาแล้ว  อาจจะทำให้อิ่มเพียงแค่ครอบครัวเดียวและวันเดียว แต่จะทำให้คนไทยทั้งประ เทศอดอยากไปอีกยาวนาน เพราะหากเกิดเหตุร้ายใดๆ ขึ้นในห้วงเวลานี้ จะเป็นการซ้ำเติมประเทศไทย ให้ไหลลงไปในเหวลึก จนยากจะฉุดขึ้นมาอีกแล้ว วันนี้ นปก. ยังยึดมั่นอยู่ในแนวทางสันติ อหิงสา ชุมนุมประท้วงโดยสงบ หลบเลี่ยงการปะทะทุกกรณี  แต่กลับมีอ้ายบัง นี่ล่ะ ที่กำลังจะเป่านกหวีด ให้มวลชนของกองทัพที่ทหารเลี้ยงดูไว้ ออกมาเปิดเกมปะทะ  เพื่อจะนำประเทศไทยสู่ใต้อำนาจเบ็ดเสร็จของมัน อย่างยาวนานนั่นเอง           เพียงแค่อ้าปาก ก็เห็นลิ้นไก่แล้วล่ะ อ้ายบัง           เพียงแค่เอ่ยคำ ก็เห็นความระยำในความคิดแล้วล่ะ อ้ายบัง           เมื่อไรจะหยุดสร้างความฉิบหายแก่คนไทยและประเทศไทย เสียที           ตอบได้ไหม อ้ายบัง !